อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ประกอบไปด้วยกลุ่มประเภทธุรกิจที่หลากหลาย โดยมีกลุ่มธุรกิจหลัก ๆ ได้แก่ 1) การจัดประชุมองค์กร (Meetings) 2) การท่องเที่ยวเชิงรางวัล (Incentives) 3) การจัดประชุมนานาชาติ (Conventions) และ 4) การจัดงานแสดงสินค้า (Exhibitions) และ 5) การจัดงานอีเว้นต์ขนาดใหญ่ (Mega-Event) โดยกลุ่มธุรกิจเหล่านี้เป็นกลุ่มธุรกิจที่เปรียบเสมือนเวทีกลางในการเชื่อมโยงธุรกิจ การสร้างพันธมิตร และการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพและนักท่องเที่ยวรายได้สูงมายังประเทศไทย
จึงถือได้ว่า อุตสาหกรรมไมซ์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มงานแสดงสินค้า โดยในปี 2023 อุตสาหกรรมไมซ์มีสัดส่วนรายได้จากการจัดงานแสดงสินค้า (Exhibitions) มากที่สุดจำนวน 66,790 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 63.6 ของรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งหมด รองลงมา คือ การจัดประชุมองค์กร (Meetings) มีมูลค่า 17,327 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.5 และธุรกิจไมซ์ประเภทการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) มีมูลค่า 13,915 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.25 ในขณะที่การประชุมวิชาการ (Conventions) มีสัดส่วนรายได้น้อยที่สุด โดยมีมูลค่ารายได้ 6,976 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.64 ทั้งนี้ หากพิจารณาผู้เข้าร่วมงานไมซ์ในปี พ.ศ. 2566 พบว่า มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 17,669,535 ราย โดยผู้เข้าร่วมชาวต่างชาติมีจำนวนทั้งหมด 817,914 ราย และผู้เข้าร่วมในประเทศมีจำนวนทั้งหมด 16,851,621 ราย สำหรับผู้เข้าร่วมงานชาวต่างชาติ พบว่า มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าหรือนิทรรศการ (Exhibitions) มากที่สุดจำนวน 269,846 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 32.99 ของจำนวนผู้เข้าร่วมงานไมซ์ต่างชาติทั้งหมด
เมื่อวิเคราะห์ สถิติจำนวนนักเดินทางไมซ์ต่างชาติ สูงสุด ในปี 2566 พบว่า 5 ประเทศหลักที่มีนักเดินทางไมซ์เดินทางมายังประเทศไทยสูงสุดได้แก่ ประเทศอินเดีย ตามมาด้วย ประเทศจีน ประเทศมาเลเซีย ประเทศเวียดนาม และประเทศสิงคโปร์ โดยจากการวิเคราะห์ประเภทของกิจกรรมไมซ์ที่นักเดินทางไมซ์ของประเทศข้างต้นพบว่า กลุ่มนักเดินทางไมซ์จากประเทศอินเดีย จีน เวียดนาม และสิงคโปร์ มีความสนใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมไมซ์ประเภทการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) และการประชุมองค์กร (Meetings) ในขณะที่ กลุ่มนักเดินทางจากประเทศมาเลเซียมีความสนใจที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้า (Exhibitions) ในประเทศไทย
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลกมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตรงตามความหวังของผู้เข้าร่วม โดยแนวโน้มในปีในปี 2567 อุตสาหกรรมไมซ์จะปรับตัวไปในทิศทางที่จะต้องพึ่งพาการใช้งานข้อมูลเชิงลึก (MICE Data-Driven Insights) การใช้งาน AI (AI Adoption) และการใช้งานเครื่องมือและนวัตกรรมดิจิทัลต่าง ๆ (Collaboration & Digital Tools) เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เกิดศักยภาพในการดำเนินงานสูงสุดทั้งด้านการอำนวยความสะดวกและการจัดงานที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เข้าร่วม การสร้างโอกาสทางธุรกิจผู้จัดงาน และการบริหารจัดการธุรกิจให้มีความยืดหยุ่น รวมไปถึง รูปแบบการจัดงานอย่างยั่งยืน